Search

พัฒนาวัคซีนโควิด-19 วอนรัฐช่วย “สัญชาติไทย” หมอธียันผลแต่ไร้โรงงานสกัด - ไทยรัฐ

crime-cimne.blogspot.com

สำหรับสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในไทย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 คนเป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเนเธอร์แลนด์ และเข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 5 คน ทำให้มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,242 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.05 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 111 ราย หรือร้อยละ 3.25 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,411 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นหญิงไทย อายุ 30 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ถึงประเทศไทยวันที่ 15 ส.ค.2563 เข้ากักตัวในสถานกักตัวที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ที่ จ.ชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจในครั้งที่ 2 วันที่ 26 ส.ค. (วันที่ 12 ของการกักตัว) โดยไม่มีอาการป่วย

คุมเข้มด่านตามพรมแดน

นพ.โสภณกล่าวต่อว่า สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้ยังคงพบการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง มีรายงานผู้ติดเชื้อทั่วโลกสะสม 24,906,503 ราย มีอัตราการเพิ่มของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันกว่า 200,000 ราย ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อสูงสุด คือ สหรัฐอเมริกา, บราซิล และอินเดีย นอกจากนี้มีหลายประเทศกลับมาพบการระบาดในระลอกที่ 2 เช่น ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง เวียดนาม เมียนมา เป็นต้น สำหรับประเทศไทยได้จัดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รองรับในผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกราย มีระบบเฝ้าระวังกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine), สถานที่กักตัวที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) หรือโรงพยาบาลทางเลือก (Alternative Hospital Quarantine) นอกจากนี้ บริเวณด่านพรมแดนต่างๆ มีด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังกลุ่มแรงงาน และผู้ที่เดินทาง เพื่อป้องกันการนำเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ประเทศ

ระวังตัวเองลดเสี่ยงระบาด

นพ.โสภณกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้ไทยจะไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว แต่เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดระลอก 2 เช่นเดียวกับในหลายประเทศ ความร่วมมือร่วมใจของประชาชนที่ตระหนักและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้ ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน ไม่นำตัวเองไปสัมผัสกับความเสี่ยงต่างๆ เลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่แออัด คนรวมกันจำนวนมาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ รับประทานอาหารร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว ที่สำคัญคือเมื่อป่วยเป็นไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ มีน้ำมูก ต้องอยู่บ้านพักรักษาตัวไม่ไปในสถานที่ต่างๆ ป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น และลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ในแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้งที่เข้าใช้บริการในสถานที่ต่างๆ เพราะเมื่อหากพบผู้ติดเชื้อ จะใช้เป็นข้อมูลในการติดตามผู้สัมผัสนำเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคต่อไป

ปินส์-อินโดฯ ติดเชื้อกว่า 3 พัน

วันเดียวกัน กรมควบคุมโรครายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศแถบอาเซียน พบว่าสถานการณ์ในฟิลิปปินส์ยังน่าห่วง เมื่อพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 3,963 คน ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมพุ่งไปที่ 209,544 คน สูงสุดในอาเซียน เสียชีวิตเพิ่ม 91 คน ยอดตายสะสม 3,325 คน ตามด้วยอินโดนีเซีย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,003 คน ยอดติดเชื้อสะสม 165,887 คน เสียชีวิตเพิ่ม 105 คน ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 7,169 คน ส่วนสิงคโปร์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 94 คน รวมผู้ติดเชื้อ 56,666 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ขณะที่มาเลเซียติดเชื้อรายใหม่ 10 คน ยอดรวมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 9,306 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม เวียดนาม ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 คน รวมติดเชื้อสะสม 1,038 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม เมียนมาติดเชื้อเพิ่ม 41 คน รวมยอดติดเชื้อสะสม 643 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ขณะที่กัมพูชา บรูไน และลาว ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม

บินรับ “นายหมัด” มารักษาในไทย

ด้านนายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือนายหมัด มะมิน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคนไทยของสำนักงานแรงงานในซาอุดีอาระเบียว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ สั่งการให้กรมการกงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งนำนายหมัดกลับมาดูแลต่อในไทย โดยเมื่อวันที่ 18 ส.ค.กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญอุปทูตซาอุดีอาระเบียมาพบนายดุสิต เมนะพันธุ์ อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา เพื่อขอให้ช่วยดูแลรักษานายหมัด รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด และสำนักงานแรงงาน ณ กรุงริยาด ได้ ประสานงานโรงพยาบาลและหน่วยงานต่างๆ ของซาอุดีอาระเบีย มาแต่ต้น ช่วงที่นายหมัดรักษาตัว สถานเอกอัครราชทูตฯได้ติดตามสอบถามอาการอย่างต่อเนื่อง ดูแลช่วยเหลือครอบครัวและบุตรชาย 1 ใน 2 คนของนายหมัด ที่ติดเชื้อโควิด-19 ทางการซาอุดีอาระเบียได้จัดให้เข้ากักกันเพื่อเฝ้าระวัง ส่งตัวกลับบ้านพักหลังครบเวลากักกันและตรวจเชื้ออีกครั้งมีผลเป็นลบ

จนท.ในซาอุฯติดเชื้อ 4 ราย

นายเชิดเกียรติกล่าวอีกว่า ผลตรวจของนายหมัด ล่าสุดปลอดเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับครอบครัวและกระทรวงแรงงานเรื่องการนำตัวนายหมัดกลับมารักษาตัวต่อที่ไทย บนพื้นฐานของความปลอดภัยสูงสุด ด้วยเที่ยวบินเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินทางอากาศ จะมีทีมแพทย์ประจำยานพาหนะเดินทางออกจากสิงคโปร์ไปยังซาอุดีอาระเบีย จะออกจากซาอุดีอาระเบียกลับถึงไทยในต้นสัปดาห์หน้า เมื่อถึงไทยจะมีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลรับตัวนายหมัดมารักษาต่อไป ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ของไทยในซาอุดีอาระเบียป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 4 ราย ได้แก่ ข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตฯ 1 ราย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคนไทยของสถานเอกอัครราชทูตฯ 1 ราย และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของสำนักงานแรงงาน 2 ราย ในขณะนี้ทุกคนได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว

นายกฯ สั่งเข้มงวดชายแดน

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลฯ สั่งล็อกดาวน์เมืองซิตตเวอย่างไม่มีกำหนดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนเมียนมา เพิ่มความเข้มงวดในทุกมาตรการในทุกจุด

เฝ้าระวัง 10 จังหวัดติดเมียนมา

รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้ขานรับนโยบายและมอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขับเคลื่อนการปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในจังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนของประเทศเมียนมา โดยย้ำสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด 10 จังหวัด ที่มีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมา ได้แก่ กาญจนบุรี ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี แม่ฮ่องสอน ระนอง ราชบุรี ประสานทำงานร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครอง กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานในพื้นที่ ปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติของการป้องกันโรคตามคำสั่ง ศบค.อย่าง เคร่งครัด ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและป้องกันคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ทั้งช่องทางจุดผ่านแดนถาวร, จุดผ่อนปรนทางการค้า, จุดผ่อนปรนพิเศษ และช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน, รวม ถึงสืบสวน หาข่าว การกระทำในลักษณะเป็นขบวนการนำพา เป็นนายหน้า และดำเนินการบังคับใช้กฎหมายและขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกราย ทั้งในระดับพื้นที่ และทางสื่อออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ และสื่อต่างๆ

วอน ปชช.ช่วยกันสอดส่อง

รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า ได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับตรวจสอบและควบคุมการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด และห้ามมิให้มีกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจในปกครองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเข้าเมืองผิดกฎหมายของคนต่างด้าวหากพบการกระทำผิด โดยจะพิจารณาดำเนินการทางอาญา และทางวินัย อย่างเฉียบขาดทุกกรณี เพื่อควบคุมและป้องกันความเสี่ยง ไม่ให้เกิดการระบาดระลอกใหม่และให้ประเทศไทยปราศจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ในทุกมิติ ทั้งนี้ หากประชาชนพบเบาะแสหรือมีข้อมูลการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หรือขบวนการ ลักลอบนำพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) หมายเลข 1599 หรือสายด่วนแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย หมายเลข 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ทุกคนจะได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา

ตากสกัดจับแรงงานต่างด้าว

ส่วนการสกัดแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองยังคงมีต่อเนื่องโดย พ.ต.อ.สังคม ตัดโส ผกก.ตม.จ.ตาก สั่งการให้ ร.ต.อ.โอภาส จตุราภิรมย์ รอง สว.ชุดปฏิบัติการ ประสานกำลังตำรวจ ตชด.345 สกัดจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว บริเวณถนนบ้านต้นผึ้ง-บ้านน้ำดิบ หมู่ 2 ต.แม่ระมาด อ.แม่สอด กระทั่งพบรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน บน 760 ตาก เรียกตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวพยายามหลบหนีพุ่งชนรถกระบะเจ้าหน้าที่จนได้รับความเสียหาย ตรวจสอบพบนายสุรศักดิ์ วนาเจริญสุข อายุ 30 ปี เป็นคนขับ และพบชาวเมียนมา 13 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 3 คน นายสุรศักดิ์รับสารภาพว่า รับแรงงานต่างด้าวจากชายแดนริมแม่น้ำเมย ไปส่งพื้นที่ชั้นใน ทั้งหมดจะเสียค่าหัวคนละ 12,000-13,500 บาท จึงคุมตัวส่งดำเนินคดี สภ.แม่ระมาด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีดำ ทะเบียน บน 126 ตาก พลิกคว่ำริมถนนบ้านน้ำดิบบอนหวาน ต.แม่ระมาด คาดว่าเป็นรถขนแรงงานต่างด้าวที่พยายามหลบหนีเจ้าหน้าที่ พบเพียงชายชาวเมียนมาได้รับบาดเจ็บ 2 คน นำส่ง รพ.แม่ระมาด และจะสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป

ประจวบฯ คุมเข้มชายแดน

ด้านนายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กำชับนายอำเภอทั้ง 8 อำเภอ มีพื้นที่ติดประเทศเมียนมา ความยาว 220 กิโลเมตร เน้นย้ำกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ที่มีพื้นที่ติดพรมแดนเมียนมาทางช่องทางธรรมชาติ ให้ป้องกันการลักลอบเข้าเมือง หลัง ศบค.รายงานในเมียนมามีการระบาดระลอก 2 โดยให้รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ทุกวัน ขณะที่ พ.ต.ต.สันติ อ่อนน้อม สว.ตม.จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตม.คุมเข้มการเดินทางเข้าออกผ่านจุดตรวจและพื้นที่รับผิดชอบ หลังจากคณะกรรมการชายแดนอนุญาตให้เปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร เมื่อวันที่ 1 ก.ค. โดยอนุญาตให้นำเข้าส่งออกสินค้าแห้ง ตั้งแต่เวลา 06.30-18.30 น.และแจ้งให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องผ่านเข้าออกจุดตรวจโดยเด็ดขาด

ติดเชื้อทั่วโลกใกล้แตะ 25 ล้านคน

ขณะที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ยอดผู้ติดเชื้อรวมใน 213 ประเทศหรือดินแดนทั่วโลก เพิ่มเป็น 24.93 ล้านคน เสียชีวิตทั่วโลก 8.41 แสนคน รักษาหายทั่วโลก 17.31 ล้านคน สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก 6.09 ล้านคน และ 1.85 แสนคน ตามลำดับ ตามด้วยบราซิล มีผู้ติดเชื้อ 3.81 ล้านคน ผู้เสียชีวิต 1.19 แสนคน และอินเดีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากถึง 76,472 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 3.46 ล้านคน ผู้เสียชีวิต 6.27 หมื่นคน

เมียนมาเจอติดเชื้อหนักที่ยะไข่

ส่วนสถานการณ์ในแถบเอเชีย ซึ่งนอกจากอินเดียที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงหลายหมื่นคนติดต่อกันมาหลายวันและยังรั้งสถิติผู้ติดเชื้อรายวันสูงกว่าสหรัฐฯและบราซิล มาเกือบ 2 สัปดาห์แล้วนั้น การระบาดในหลายประเทศยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะ ประเทศศูนย์กลางการระบาดในแถบอาเซียนอย่างฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ต่างมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเกินกว่า 3,000 คน ส่วนมาเลเซีย มีการขยายมาตรการเข้มงวด ซึ่งรวมทั้งห้ามนักท่องเที่ยวเข้าประเทศและปิดพรมแดนจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่กระทรวงสุขภาพและกีฬาของเมียนมา รายงาน ณ วันที่ 29 ส.ค.พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ 13 คน แบ่งเป็น 12 คนอยู่ที่รัฐยะไข่และ 1 คนอยู่ที่เมืองตองจี รัฐฉาน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 656 คน ผู้เสียชีวิตสะสม 6 คน กรณีที่รัฐยะไข่ รัฐบาลเมียนมาเพิ่งบังคับใช้คำสั่งล็อกดาวน์ทั่วพื้นที่เพื่อควบคุมการระบาดโดยมีซิตตะเว เมืองเอกของรัฐ เป็นศูนย์ กลางการระบาด

โสมขาวหวั่นเตียงไม่พอรับผู้ป่วย

ด้านเกาหลีใต้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 308 คน เป็นการพบผู้ติดเชื้อเป็นตัวเลข 3 หลักเป็นวันที่ 16 ติดต่อกัน สร้างความวิตกว่าเกาหลีใต้อาจเผชิญภาวะขาดแคลนเตียงคนไข้โดยเฉพาะในเขตนครหลวงกรุงโซล เหลือเตียงผู้ป่วยรอง รับใช้งานได้เพียงร้อยละ 4.5 ท่ามกลางมาตรการเข้มงวดรอบใหม่ที่เกาหลีใต้เพิ่งสั่งปิดโรงเรียนส่วนใหญ่ในกรุงโซลเช่นเดียวกับโบสถ์ ไนต์คลับและโรงยิม เพื่อควบคุมการระบาดที่สุ่มเสี่ยงระบาดลามไปทั่วประเทศและตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.เป็นต้นไป ร้านอาหารและผับจะอนุญาตให้ซื้ออาหารกลับบ้านได้เท่านั้น หลังจากเลยเวลา 21.00 น. ไปแล้ว คำสั่งเข้มงวดดังกล่าวจะบังคับใช้เป็นเวลา 8 วัน

จีนอนุมัติใช้วัคซีนเป็นการฉุกเฉิน

ส่วนความคืบหน้าการทดลองวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 แหล่งข่าวในจีนเผยว่า วัคซีนทดลองป้องกันไวรัสมรณะ “โคโรนาแวค” ของบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด ของจีน ได้รับอนุมัติจากทางการจีนให้ใช้เป็นการฉุกเฉินได้อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการในจีนที่ให้ฉีดวัคซีนกับคนกลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น เช่นเดียวกับบริษัท ไชนาแนชนัล ไบโอเทค กรุ๊ป (ซีเอ็นบีจี) บริษัทลูกของกลุ่มบริษัทยาแห่งชาติจีน (ซิโนฟาร์ม) เผยว่า วัคซีนทดลองของบริษัทได้รับอนุมัติเพื่อใช้ในการฉุกเฉินในจีนได้เช่นกัน แต่ซีเอ็นบีจีไม่ระบุชัดว่าเป็นวัคซีนตัวใด เนื่องจากซีเอ็นบีจี มีวัคซีนที่กำลังทดลองระยะสุดท้ายหรือเฟส 3 อยู่ 2 ตัว ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่อยู่ระหว่างการทดลอง เฟส 3 ทั่วโลกอยู่ 7 ตัวหรือชนิด ซึ่งวัคซีน 4 ตัวในนี้เป็นของบริษัทในจีน

มะกันขยายการใช้ยาเรมเดซีเวียร์

ขณะที่กีลีด ไซเอินซ์ บริษัทยาของสหรัฐฯ เผยว่า สำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ ขยายขอบเขตการอนุญาตให้ใช้ยาต้านไวรัส “เรมเดซีเวียร์” เพื่อกรณีฉุกเฉินเพิ่มเติม โดยอนุญาตให้ใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลได้ทั้งหมด หลังเบื้องต้นอนุญาตใช้ฉุกเฉินเฉพาะรักษาผู้ป่วยติดเชื้ออาการหนักเท่านั้น บ.กีลีด เผยด้วยว่า การอนุญาตเพิ่มเติมดังกล่าว เอฟดีเอ พิจารณาจากผลศึกษาของส่วนกลางในกลุ่มผู้ป่วยรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยอาการรุนแรงแตกต่างกันผนวกกับผลศึกษาของ บ.กีลีดที่พบว่าในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสมรณะเข้าโรงพยาบาลที่มีอาการปานกลาง ถ้าใช้ยาเรมเดซีเวียร์รักษาควบคู่ไปด้วย มีโอกาสอาการดีขึ้นร้อยละ 65 หลังการรักษาผ่านไป 5 วัน เมื่อเทียบกับผู้รักษาตามมาตรฐานทั่วไปโดยไม่ใช้ยาเรมเดซีเวียร์




August 30, 2020 at 04:45AM
https://ift.tt/2EPIKvj

พัฒนาวัคซีนโควิด-19 วอนรัฐช่วย “สัญชาติไทย” หมอธียันผลแต่ไร้โรงงานสกัด - ไทยรัฐ

https://ift.tt/39v22A5


Bagikan Berita Ini

0 Response to "พัฒนาวัคซีนโควิด-19 วอนรัฐช่วย “สัญชาติไทย” หมอธียันผลแต่ไร้โรงงานสกัด - ไทยรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.