Search

พันตำรวจเอกธนสิทธิ รับทำพลาดเปลี่ยนคำให้การความเร็วรถบอส อยู่วิทยา ใช้สูตรคำนวณผิดถึงร้อยละ 40 - ช่อง 7

crime-cimne.blogspot.com
พันตำรวจเอกธนสิทธิ แตงจั่น ผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และคำนวณความเร็วรถในคดี “บอส อยู่วิทยา” ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ได้คำนวณความเร็วรถเฟอร์รารี่ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ต่อมาเขาได้เปลี่ยนคำให้การอ้างวิธีคิดใหม่ จึงได้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กลายเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญของคดี

พันตำรวจเอกธนสิทธิ ได้เปิดเผยระหว่างการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ประเด็นแรกตั้งแต่เริ่มตรวจจุดเกิดเหตุ ขณะนั้นพิจารณาไปตามหลักฐานและแนวทางของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ร่วมกับอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันว่าคำนวณความเร็วรถเฟอร์รารี่ได้ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจริง

กระทั่งต่อมาปี 2559 “บอส อยู่วิทยา” ร้องขอความเป็นธรรมจนมีการสอบเพิ่ม และพิจารณาประเด็นความเร็วรถอีกครั้ง กองพิสูจน์หลักฐานจึงตรวจสอบเรื่องความ เร็วใหม่ และเลือกที่จะเชื่อการคำนวณจากสูตรของ ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งเป็นพยานใหม่ ที่คำนวณได้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โดยสาเหตุที่เชื่อความเห็นของ ดร.สายประสิทธิ์ เพราะขณะนั้นตัวเองได้ทำงานกับ ดร.สายประสิทธิ์ ในคดี เสี่ยชูวงษ์ และได้เห็นวิธีการคำนวณความเร็วรถในคดีดังกล่าว ขณะนั้นไม่พบว่ามีข้อบกพร่องในการคำนวณ

จนต่อมามีสำนวนคดี “บอส อยู่วิทยา” ที่มีคำสั่งให้สอบเพิ่ม และขณะนั้นกองพิสูจน์หลักฐานกลางมีเวลาจำกัดมาก จึงพิจารณาใช้สูตรของ ดร.สายประสิทธิ์ เพราะเชื่อในสมมุติฐาน เชื่อถือในฐานะครูบาอาจารย์ ประกอบกับ ดร.สายประสิทธิ์ แนะนำว่าตัวเองเชี่ยวชาญในเรื่องรถยนต์ และนอกจากตัวเองก็มีตำรวจในกองพิสูจน์หลักฐานกลางช่วยกันคิดด้วย จนมีการเปลี่ยนคำให้การ อ้างอิงตามสูตรของ ดร.สายประสิทธิ์ และเข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.ทองหล่อ

แต่หลังจากนั้นก็ได้นำสูตรของ ดร.สายประสิทธิ์ มาให้ทีมงานของตัวเองวิเคราะห์ ก็พบว่าวิธีการดังกล่าว “มีความผิดพลาดมากถึงกว่าร้อยละ 40” ตัวเองรู้สึกไม่สบายใจที่ให้ปากคำเรื่องความเร็วไปที่ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งที่รายงานเก่าตรวจได้ความเร็ว 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงแจ้งผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลางในขณะนั้น จนมีการติดต่อ พันตำรวจเอกวิรดล ทับทิมดี ผู้กำกับการสอบสวน สน.ทองหล่อ โดยใช้การเปิดลำโพงพูดคุยพร้อมกับผู้บังคับการ

แต่ขณะนั้นพันตำรวจเอกวิรดล บอกกลับมาว่าเอกสารได้ส่งอัยการแล้วหมดหน้าที่ของตำรวจและคดีความเร็วรถก็ขาดอายุความแล้ว ตัวเองและผู้บังคับการ จึงเชื่อเอาว่าเมื่อคดีขาดอายุความแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องให้ปากคำเพิ่มเติม

แต่ขอยืนยันว่าต่อมาตัวเองพยายามแก้ไขกรณีนี้แล้วในวันที่ 21 กรกฎาคม 2559 ได้รับหนังสือจากกรรมาธิการกฎหมายฯ ให้เข้าชี้แจง ซึ่งวันดังกล่าวได้พบกับสารวัตรท่านหนึ่งและพูดคุยกันเรื่องหลักฐานเกี่ยวกับสภาพการชน สารวัตรคนดังกล่าวบอกว่าจากหลักฐานสภาพการชนความเร็วไม่น่าเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวเองก็แปลกใจ และเตรียมจะยืนยันความเร็วเดิม 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าตัวเองไม่ต้องชี้แจงแล้ว

ต่อมา 11 สิงหาคม 2559 ได้รับหนังสือจากจเรตำรวจ ให้เข้าชี้แจงคดีนี้อีกครั้งนี้ จึงได้ยืนยันว่าพบความผิดพลาดและขอกลับมาใช้ความเร็วที่ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมถึง 4 กันยายน 2560 ปปช. มีหนังสือให้ตัวเองเข้าไปให้ถ้อยคำ ก็ได้ยืนยันว่าพบความผิดพลาดและขอกลับมาใช้ความเร็ว 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ทั้ง 2 เรื่องไม่เคยปรากฏในสื่อหรือต่อสาธารณชน

ต่อมา ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งร่วมคำนวณความเร็วรถตั้งแต่วันเกิดเหตุ แต่ไม่มีการนำรายงานโดยละเอียดของ ดร.สธน เข้าในสำนวน ก็ได้ชี้แจงต่อกรรมาธิการ โดยยืนยันความถูกต้องของวิธีการคำนวณจนได้ความเร็ว 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ด้าน พันตำรวจเอกวิรดล ทับทิมดี อดีตผู้กำกับการสอบสวน สน.ทองหล่อ เจ้าของคดี ชี้แจงกรณีไม่แจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “บอส อยู่วิทยา” ว่าหลังเกิดเหตุได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์นายบอส ได้ประมาณ 64 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่จากการให้ความเห็นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าหากนำมาคำนวณจากตัวเลขดังกล่าว ขณะเกิดเหตุอาจมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการหมดสติไม่สามารถขับรถได้แล้ว จึงเชื่อว่าปริมาณแอลกอฮอล์ที่พบอาจเกิดจากการดื่มหลังเกิดเหตุรถชน

ส่วนกรณีการเปลี่ยนช่องทางจราจรของรถจักรยานยนต์ จากวัตถุพยาน สันนิษฐานได้ว่าจุดที่ชนอยู่ที่บริเวณช่องจราจรที่ 3 ด้านขวาสุด ทำให้เชื่อได้ว่ารถจักรยานยนต์มีการเปลี่ยนช่องทางการจราจร โดยไม่ยืนยันว่าเป็นการเปลี่ยนกะทันหันหรือไม่ แต่อาจมีส่วนทำให้ประมาทได้

ด้าน พลตำรวจโทเพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ลงนามไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการยืนยันทำไปตามอำนาจหน้าที่ด้วยความสุจริต ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ส่วนสำนวนคดี “บอส อยู่วิทยา” มี 4 แฟ้ม ถูกส่งมาตามลำดับขั้นตอน ผ่านคณะทำงานและผู้ตรวจสำนวนที่ได้นำเสนอขึ้นมา ซึ่งให้ความเห็นสอดรับกันทั้งหมด โดยได้ใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 3-4 วันว่าความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับพยานหลักฐานในสำนวนจึงเห็นชอบตามที่ผู้ตรวจสำนวนเสนอมา




August 13, 2020 at 05:36PM
https://ift.tt/30V4bUp

พันตำรวจเอกธนสิทธิ รับทำพลาดเปลี่ยนคำให้การความเร็วรถบอส อยู่วิทยา ใช้สูตรคำนวณผิดถึงร้อยละ 40 - ช่อง 7

https://ift.tt/39v22A5


Bagikan Berita Ini

0 Response to "พันตำรวจเอกธนสิทธิ รับทำพลาดเปลี่ยนคำให้การความเร็วรถบอส อยู่วิทยา ใช้สูตรคำนวณผิดถึงร้อยละ 40 - ช่อง 7"

Post a Comment

Powered by Blogger.