
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ชี้แจง เรื่อง ป.ป.ช. ค่ะ สรุปสั้นๆว่า ตอนนี้ ถูกกล่าวหาเพียงข้อหาเดียวเท่านั้น คือ จงใจแจ้งทรัพย์สินเท็จ โดยแบ่งเป็น 3 ประเด็นดังนี้
1.ปารีณาแจ้งว่านายประทีป มีพรบูชา กู้เงินไป 7,700,000 บาท แต่นายประทีปบอกว่าไม่ได้กู้ ป.ป.ช. จึงกล่าวหาว่า จงใจแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ซึ่งปารีณา เตรียมเอกสารสัญญาเงินกู้ เอกสารการโอนลอยบ้านและที่ดิน เอกสารเช็คเพื่อชำระเงิน และเอกสารแจ้งความ พ.ร.บ.เช็ค เพราะเช็คที่ชำระเด้ง ไปมอบให้แก่ป.ป.ช.
2.แจ้งราคา ชื่อ พร้อมรูปลักษณ์ของพระสมเด็จ ที่อดีตสามีเคยมอบให้ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง อาจมีราคาสูงเกินจริง มีเจตนาจงใจแจ้งทรัพย์สินเท็จ ซึ่งอดีตก่อนแต่งงานปารีณา ไม่เคยแจ้งว่ามีพระเลย จนกระทั่งมาแต่งงานกับอดีตสามี และอดีตสามีได้มอบพระให้ตนและบอกว่าพระองค์นี้ชื่ออะไร ราคาเท่าไหร่ ยินดีพร้อมให้ตรวจสอบพระเครื่องดังกล่าว และสิ่งที่ ป.ป.ช. ให้ความสนใจที่สุดคือเรื่อง #ราคา โดยขอยืนยันว่า ไม่เคยตีราคาให้สูงเกินจริง เพื่อเป็นประโยชน์ในทางพาณิชย์
ไม่เคยมีการนำพระไปให้เซียนตีราคา หรือพยายามจำหน่าย ตั้งใจจะมอบพระเครื่องดังกล่าวให้กับลูกชาย เพราะลูกชายได้รับอุบัติเหตุบ่อย และสามีเคยมอบพระองค์เล็กๆให้ลูกชายแต่เอาคืนไปแล้ว เพราะตอนนั้นลูกชายยังเด็กกลัวหาย เลยตั้งใจว่าถ้าโตขึ้นจะเอาพระดังกล่าวให้ลูกชาย เพื่อเป็นสิริมงคล
3. ที่ดิน ภบท.5 ปารีณาเข้ามาครอบครองและเริ่มชำระภาษีดอกหญ้าตั้งแต่ประมาณปี 53 ตามเอกสารที่เคยยื่นให้กับ ป.ป.ช ไปแล้ว แต่เนื่องจากเลขาได้จัดเตรียมเอกสารผิดพลาด โดยนำเอาที่ดิน ภบท.5 พื้นที่เดียวกันนี้ แต่เป็นผู้ครอบครองคนอื่น หรือผู้ครอบครองก่อน ที่ไม่ใช่ปารีณา ส่ง ป.ป.ช ไปด้วย และด้วยหมายเลข ภบท.5 ของพื้นที่เดียวกัน จะเปลี่ยนแปลงเลขที่ที่ดิน ทุก 4 ปี เพราะป่าไม้เข้ามาสำรวจพื้นที่พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้านทุก 4 ปี จึงทำให้เลขแปลงมีการเปลี่ยนแปลงทุก 4 ปี ซึ่งเอกสารดังกล่าวคัดสำเนามาจาก อบต. และที่ดิน ภบท.5 ที่แจ้ง ไม่ได้บวกรวมมูลค่าที่ดินเข้าไปในทรัพย์สินของปารีณา ไม่ได้บวกรวมจำนวนพื้นที่ที่ดินประเภท โฉนด นส.3 ก ของปารีณาในจังหวัดอื่นๆ
แต่เหตุที่ต้องแจ้งเพราะ ป.ป.ช.มีหนังสือและได้มาสัมมนาที่พรรคพลังประชารัฐ ขอความร่วมมือให้ช่วยแจ้งหากผู้แทนครอบครองที่ดิน ภบท.5 ซึ่งมี ผู้แทนหลายคนได้แจ้งที่ดิน ภบท.5 ให้กับ ป.ป.ช. เช่นเดียวกับปารีณา ต่างตรงที่ยังไม่มีผู้ใดถูกกล่าวหาหรือดำเนินคดีโดย ป.ป.ช. หรือหน่วยงานใดๆ
สุดท้าย เรื่องความผิดจริยธรรมร้ายแรง ข้อหาบุกรุกป่า ทางป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนทั้งหมดคืนให้กับ บก.ปทส ไปแล้ว เพราะไม่ใช่หน้าที่ของ ป.ป.ช. อีกทั้งในช่วงที่ปารีณาครอบครองที่ดินดังกล่าว ปารีณา ไม่ได้เป็น ส.ส. จึงไม่มีความผิดเกี่ยวข้องกับที่ดิน และไม่เคยใช้อำนาจหน้าที่ในการเข้าไปทำกิน ใช้แต่ตังค์ค่ะ ถึงตอนนี้ ปารีณายังไม่รับหมายหรือข้อกล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรงใดๆ อีกทั้ง รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะลึกทั่วไทยว่า จะมีการกล่าวหา เรื่องปกปิดทรัพย์สิน ซึ่งถึงตอนนี้ ข้อกล่าวหาในเรื่องทรัพย์สินมีเพียง 3 ข้อที่กล่าวไป ยังไม่มีข้อหาอื่นใดอีก
ฝากท่านรองเลขาธิการด้วยว่า การให้สัมภาษณ์ควรเป็นไปด้วยความระมัดระวัง เพราะวันนี้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เปิดโอกาสให้ฟ้อง ป.ป.ช. ได้แล้วนะคะ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการทำหน้าที่ หรือประเด็นการพูดจนทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ปารีณา"จี้ "วันชัย-คำนูณ-60 ส.ว."โชว์สปิริตลาออก ส.ว. ...
September 09, 2020 at 08:11AM
https://ift.tt/35noyfF
'เอ๋'ขู่รองเลขาป.ป.ช. พูดต้องระวังก.ม.เปิดช่องให้ฟ้องได้ - เดลีนีวส์
https://ift.tt/39v22A5
Bagikan Berita Ini
0 Response to "'เอ๋'ขู่รองเลขาป.ป.ช. พูดต้องระวังก.ม.เปิดช่องให้ฟ้องได้ - เดลีนีวส์"
Post a Comment