เผาแล้วซีอุย ปิดตํานาน 60 ปี คดีกินคน "ทับสะแก" ขอทําบุญอุทิศทุกปี (คลิป) - ไทยรัฐ

crime-cimne.blogspot.com

เผาแล้ว “ซีอุย” ปิดตำนาน “มนุษย์กินคน” ยาวนานกว่า 60 ปี หลัง ตกเป็นฆาตกรฆ่าชำแหละเด็กหลายคดี ถูกศาลตัดสินประหาร ชีวิตปี 2502 รพ.ศิริราชขอร่างไปจัดแสดงและเขียนข้อความ “มนุษย์กินคน” กระทั่งชาว อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ ถิ่นที่ซีอุยอพยพมาจากเมืองจีนไปทำงานรับจ้าง ร้องคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเข้าข่ายเป็นการละเมิด ในที่สุดโรงพยาบาลยอมคืนศพให้กรมราชทัณฑ์นำกลับไปฌาปนกิจตามระเบียบศพประหารไร้ญาติ “เทิดพร” อดีตนักแสดงรับบทเป็นซีอุยจนโด่งดัง เผยดีใจเขาเป็นอิสระและหลุดพ้นแล้ว

พิธีเผา “ซีอุย” อดีตนักโทษประหารมนุษย์กินคน เปิดเผยเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 23 ก.ค.นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเคลื่อนย้ายร่างนายลีอุย หรือซีอุย แซ่อึ้ง อดีตนักโทษประหารชีวิต ออกจากพิพิธภัณฑ์นิติเวช ศาสตร์สงกรานต์ นิยมเสน รพ.ศิริราช กทม. ไปทำพิธีฌาปนกิจที่วัดบางแพรกใต้ ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี เมื่อมาถึงได้นำศพเวียนรอบเมรุ 3 รอบ ก่อนนำไปตั้งหน้าเมรุเพื่อรอเผาศพในเวลา 12.30 น. โดยมีนายมนตรี บุนนาค ผบ.เรือนจำกลางบางขวาง นพ.ธวัชชัย อัครวิพุฒิ รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ รพ.ศิริราช นางอังคณา ลีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และตัวแทนชาว อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ร้องเรียนเรื่องสิทธิมนุษยชน หลัง รพ.ศิริราชจัดแสดงร่างซีอุยและติดป้าย “มนุษย์กินคน”

นางอังคณาเปิดเผยว่า ในฐานะเป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนเรื่องของนายซีอุย และยื่นเรื่องให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลพิจารณาเกี่ยวกับการจัดแสดงร่างซีอุยที่มีการใช้ข้อความว่า “มนุษย์กินคน” ที่ผ่านมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้หารือร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และได้รับความร่วมมือมาโดยตลอด จนมีการปลดป้าย “มนุษย์กินคน” ออกจากหน้าตู้แสดงร่างซีอุย ก่อนนำร่างออกจากพิพิธภัณฑ์มาฌาปนกิจในวันนี้ ส่วนในทางคดีระยะเวลาผ่านมานานกว่า 60 ปี จึงไม่ทราบข้อเท็จจริงชัดเจน

“การเผานายซีอุย นักโทษประหารชีวิตที่ไม่มีญาติ ถือเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรอบ 20 ปี และประเทศไทยที่นำร่างจัดแสดงจากพิพิธภัณฑ์ออกมาทำพิธีฌาปนกิจ เนื่องจากมีการเรียกร้องเรื่องของความเหมาะสม ในอดีตหากมีคดีที่ตัดสินสิ้นสุดแล้วไม่ควรนำร่างมาจัดแสดงหรือเผยแพร่ เพราะถือเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซีอุยถือเป็นกรณีศึกษาเรื่องที่ต้องศึกษาข้อกฎหมายและสิทธิมนุษยชนให้รอบคอบ” อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวและว่า ส่วนร่างอื่นๆที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ รพ.ศิริราช เจ้าของร่างประสงค์มอบให้เป็นกรณีศึกษาโดยไม่ระบุชื่อ และโรงพยาบาลจัดพิธีบำเพ็ญกุศลให้ทุกปี

ต่อมาเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี เดินทางมาร่วมพิธีฌาปนกิจศพนายซีอุย มีประชาชนและชาวบ้านใกล้เคียงทราบข่าวมาร่วมด้วย ปรากฏว่าระหว่าง พ.ต.อ.ณรัชต์ขึ้นทอดผ้าบังสุกุล วางดอกไม้จันทน์ เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักทั้งที่แดดจ้า ฝนตกอยู่ประมาณ 30 นาที กระทั่งถึงเวลานำโลงศพเข้าเตาเผาจุดไฟฝนหยุดตกทันที ทำให้ผู้ที่มาร่วมงานเผาศพต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เป็นเสียงเดียวกันว่าซีอุยได้รับการปลดปล่อยอิสรภาพแล้ว ทั้งนี้หลังจากเผาศพซีอุยและเก็บเถ้าถ่านเรียบร้อยแล้ว กรมราชทัณฑ์จะเผาศพนักโทษอีกคนที่ไม่มีญาติมารับและถือเป็นศพนักโทษประหารคนสุดท้าย

พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวหลังเผาศพซีอุยว่า รพ.ศิริราชเปิดพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนเข้าชมนิทรรศการประมาณ 60 ปีมาแล้ว ต่อมาปี 62 มีชาวบ้านจาก อ.ทับสะแก ตั้งข้อสังเกต และไปยื่นเรื่องคำร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่า การเอาร่างไปแสดงที่ศิริราชน่าจะเข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิ์ เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีคำวินิจฉัยให้นำร่างดำเนินการทางศาสนา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ได้ให้ราชทัณฑ์นำกลับมาประกอบพิธีทางศาสนา

ด้านนายเทิดพร มโนไพบูลย์ ดารานักแสดงที่เคยรับบทแสดงเป็นซีอุยและมาร่วมงานเผาศพซีอุย กล่าวว่า ตั้งใจจะมางานเงียบๆ มาขอบคุณซีอุย เพราะเราอาศัยชื่อเขา ทำให้มีชื่อเสียง ประชาชนรู้จักมากขึ้นในนามของนักแสดง ดีใจแทนซีอุยด้วย อย่างน้อยที่สุดเขาก็ได้รับคืนความเป็นธรรม หลังจากทนทุกข์ทรมานในตู้กว่า 60 ปี ดีใจที่เขาเป็นอิสระและหลุดพ้นแล้ว หากอยากได้สิ่งใดให้มาบอก ไม่ว่าจะทางไหนก็ได้ ไม่ได้กลัว จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้

ขณะที่ ร.ต.ต.พล พลายสถิตย์ ข้าราชการบำนาญ อยู่บ้านเลขที่ 135/10 หมู่ 9 ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก เปิดเผยว่า วันนี้ได้ร่วมกับตัวแทนชาวทับสะแกกว่า 10 คน นำโดยกำนันตำบลทับ–สะแกเช่ารถตู้ไปร่วมพิธีฌาปนกิจซีอุย เป็นการร่วมแสดงความอาลัยครั้งสุดท้าย ส่วนที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ไม่ได้มอบอัฐิซีอุยให้ชาว อ.ทับสะแกหรือองค์กรอื่นถือว่าเหมาะสมแล้ว และขอให้นำอัฐิไปลอยอังคารดีกว่า ซีอุยไม่มีญาติหากนำอัฐิไปเก็บรักษาไว้ที่วัดทับสะแกจะเกิดปัญหาในภายหลัง อาจถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นแอบแฝง

“การเผาศพซีอุย ถือว่าสิ้นสุดภารกิจแล้วสำหรับประชาชนธรรมดาชาวทับสะแก และประสบผลสำเร็จจากการยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้พิจารณาคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้ซีอุย สิ้นสุดตำนานของผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง และมีฉายามนุษย์กินคน จากนี้ชาว อ.ทับสะแก กำหนดจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ซีอุยในเดือน ก.ค.ของทุกปี” ร.ต.ต.พลกล่าว

สำหรับซีอุย มีชื่อจริงว่า หลีอุย แซ่อึ้ง เกิดปี 2470 ที่ซัวเถา ประเทศจีน ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยวันที่ 28 ธ.ค.2489 ไปทำงานรับจ้างที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาซีอุยตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าเด็ก 7 คดี ที่ จ.ประจวบฯ กรุงเทพฯ นครปฐม และระยอง โดยเฉพาะที่ระยองศพถูกชำแหละตับและหัวใจหายไปและเผาศพอำพราง ซีอุยถูกนำตัวมาสอบสวนคืนวันที่ 27 ม.ค.2501 โดยใช้ล่ามจีน เนื่องจากซีอุยพูดและอ่านเขียนภาษาไทยไม่ได้

ซีอุยถูกศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2502 และ รพ.ศิริราชขอรับ ศพซีอุยมาจัดแสดงโดยเขียนว่า “นายซีอุย แซ่อึ้ง (มนุษย์กินคน)” เรื่องของซีอุยถูกนำมาสร้างเป็นละครและภาพยนตร์แนวสยองขวัญฆาตกรโรคจิตกินคนจนโด่งดังมาแล้ว ถึงขนาดผู้ใหญ่มักเอามาหลอกเด็กดื้อว่า “เดี๋ยวให้ซีอุยกินตับ” กระทั่งปี 2562 มีการร้องเรียนจนนำไปสู่การปลดป้าย “มนุษย์กินคน” ออก และส่งศพคืนให้กรมราชทัณฑ์ฌาปนกิจ ปิดตำนานมนุษย์กินคนมายาวนานกว่า 60 ปี

อ่านเพิ่มเติม...

July 24, 2020 at 05:15AM
https://ift.tt/2WV2ap4

เผาแล้วซีอุย ปิดตํานาน 60 ปี คดีกินคน "ทับสะแก" ขอทําบุญอุทิศทุกปี (คลิป) - ไทยรัฐ

https://ift.tt/39v22A5


Bagikan Berita Ini