สื่อพัทลุงแจ้งความ เอาผิดแจ้งความเท็จแม่ค้าหอย กลับคำปัดโดน ตร.รีดเงิน - ไทยรัฐ

crime-cimne.blogspot.com

นักข่าวท้องถิ่น แจ้งความเอาผิดกับแม่ค้าหอยกรณีอ้างถูกรีดเงินให้การกลับลำ อ้างใช้หนี้ตำรวจ ด้านผู้การฯ พัทลุง รับจะไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายกับแม่ค้าหอยรายนี้ต่อไป

จากกรณีที่ นางสาวสุนิศา จีนเกลี้ยง อายุ 33 ปี ชาวบ้าน ต.พญาขัน อ.เมืองพัทลุง แม่ค้าขายอาหารทะเล ร้องเรียนสื่อมวลชนพัทลุงว่า ได้ถูกกลุ่มตำรวจที่ตั้งจุดตรวจจับกุมในช่วงเคอร์ฟิว และนำตนมายัง สภ.เมืองพัทลุง ต่อมากลุ่มตำรวจได้เรียกเก็บเงินตน 80,000 บาท แทนการถูกดำเนินคดีในหลายข้อหา จนการเจรจาลดเหลือเพียง 10,000 บาท โดยตนได้โอนเงินสด 5,700 บาท ผ่านบัญชี ด.ต.ไชยา ชูศรีเพชร ผบ.หมู่(สืบสวน) สภ.เมืองพัทลุง ส่วนเงินที่ขาด 4,300 บาทนั้น กลุ่มตำรวจได้นำอาหารทะเลของตนไปแกล้มเหล้าบนโรงพักจนครบจำนวน จนข่าวฉาวโฉ่ทางสื่อต่างๆ

ต่อมาทาง ทาง พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมได้ย้าย ตร.ทั้ง 3 นาย ประกอบด้วย ด.ต.ไชยา ชูศรีเพชร ผบ.หมู่(สืบสวน) สภ.เมืองพัทลุง ด.ต.อนันต์ บัวยก ผบ.หมู่(สืบสวน)ฯ และ ด.ต.สายัณห์ อินทร์แก้ว ผบ.หมู่(สืบสวน) มาประจำที่ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พร้อมมีคำสั่งให้สารวัตรยศพันตำรวจโทคนดังกล่าว ปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เนื่องจากไม่กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของตำรวจ ภายใต้การปกครองบังคับบัญชา

ต่อจากนั้นวานนี้ (8 มิ.ย.) นางสาวสุนิศา มาให้ปากคำต่อคณะกรรมการชุดสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งมี พ.ต.อ.สุชาติ สอิด รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง เป็นประธาน และได้ให้ปากคำต่อ พล.ต.ต.กฤษฎา ที่มาสอบปากคำ น.ส.สุนิศา ด้วยตนเอง ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนถูกกลุ่มตำรวจดังกล่าวตั้งด่านตรวจจริง แต่ไม่ได้เรียกเก็บเงินตามที่เป็นข่าว ส่วนที่โอนเงิน 5,700 บาท ให้กับ ดาบตำรวจไชยา นั้น เป็นเงินหนี้สินที่ตนเคยหยิบยืมจาก ด.ต.ไชยา เพื่อนำไปเป็นค่าปรับต่อศาลพัทลุง เมื่อวันที่ 2 มี.ค.63 โดย ด.ต.ไชยาเคยเป็นแฟนกันมาก่อนที่จะคบหากับแฟนคนปัจจุบัน

นางสาวสุนิศา กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องที่ฉาวโฉ่นั้น เนื่องจากแฟนคนปัจจุบันต้องการเงินจากตนไปผ่อนรถยนต์ แต่ตนไม่มีให้ โดยบอกแฟนว่า ตนนำเงินไปให้กับตำรวจแล้ว 10,000 บาท ตอนที่ถูกจับเคอร์ฟิว ทำให้แฟนของตนโกรธแค้นตำรวจ จึงนำเรื่องไปร้องเรียนสื่อ จนเหตุการณ์ฉาวโฉ่ตามข่าว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.63 นายไสว รุยันต์ อายุ 50 ปี สื่อมวลชนส่วนกลางช่องหนึ่ง พร้อมกลุ่มผู้สื่อข่าว ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ประเสริฐ ด้วงเอียด รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทลุง เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นางสาวสุนิศา ในข้อหาแจ้งความเท็จทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย โดยมีชาวบ้านที่ติดตามข่าวฉาวโฉ่ดังกล่าวนำช่อดอกไม้มาให้ นายไสว และกลุ่มสื่อมวลชนที่ร่วมกันเสนอข่าวดังกล่าวจำนวนหลายคน หลังจากที่สอบปากคำนายไสวแล้ว พนักงานสอบสวนจะได้รวมสำนวนส่งให้ผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป

นายไสว กล่าวว่า คนที่เข้ามาร้องเรียนความเดือดร้อนกับสื่อ แต่มากลับคำให้การร้องเรียนนั้น สังคมย่อมทราบดีว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ตนในฐานะที่นำเรื่องดังกล่าวมาตีแผ่ก็พอจะคิดได้ว่าสังคมนี้มีแต่คนหลอกลวง ขาดความจริงใจซึ่งกันและกัน นี่คือสิ่งสำคัญที่จะต้องนำมาพูดกัน และนำเรื่องนี้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อนำเรื่องฉาวโฉ่ดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้สังคมเห็นว่าการที่ผู้ร้องเรียนสื่อมวลชนแล้วกลับคำมาหลอกสังคมนั้น ความจริงที่แท้จริงมันคือสิ่งใด กฎหมายสามารถดำเนินคดีกับผู้โกหกปลิ้นปล้อนได้หรือไม่ และตนอยากให้คนในสังคมได้รับทราบเรื่องที่แท้จริงโดยทั่วกัน

ส่วน ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวว่า การที่ นางสาวสุนิศา ออกมาร้องเรียนกับสื่อมวลชนจังหวัดพัทลุง ทำให้ภาพลักษณ์ของวงการตำรวจเสียหายมาก แต่ตอนหลังมาให้ปากคำว่าเรื่องดังกล่าวที่นำมาร้องเรียนกับสื่อมวลชนไม่เป็นความจริงตามข่าวที่ฉาวโฉ่นั้น ทางตนได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้รวบรวมเอกสาร หลักฐาน ไว้ทุกๆ ด้านอย่างละเอียดแล้ว ส่วนจะแจ้งความดำเนินคดีกับแม่ค้าอาหารทะเลรายนี้อย่างไร ก็ต้องขึ้นอยู่กับเอกสารหลักฐานต่างๆ

พล.ต.ต.กฤษฎา กล่าวด้วยว่า สำหรับตนนั้นไม่ติดใจกับการเสนอข่าวของนายไสว และกลุ่มสื่อมวลชนใน จ.พัทลุง เพราะเป็นหน้าที่ของสื่อมวลชน ที่จะต้องเสนอข่าวความเดือดร้อนของประชาชนที่เข้ามาร้องเรียน แต่เมื่อ น.ส.สุนิศา ออกมาให้ปากคำต่อตำรวจชนิดหน้ามือเป็นหลังมือนั้น ทาง ตร.จะต้องพิจารณาขั้นตอนต่างๆ ด้วยความรอบคอบ และจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายต่อไป.

อ่านเพิ่มเติม...

June 09, 2020 at 02:41PM
https://ift.tt/2MIFp22

สื่อพัทลุงแจ้งความ เอาผิดแจ้งความเท็จแม่ค้าหอย กลับคำปัดโดน ตร.รีดเงิน - ไทยรัฐ

https://ift.tt/39v22A5


Bagikan Berita Ini